ประวัติพระหยก

การค้นพบ

               พระราชธรรมเจติยาจารย์ (หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร) เจ้าอาวาสวัดธรรมมงคล ได้นิมิตเห็นหยกสีเขียวบริสุทธิ์ก้อนใหญ่ที่สุดในโลก กำเนิดขึ้นแล้ว (ซึ่งหลวงพ่อใช้เวลารอคอยถึง 5 ปี)เวลาตีสามช่วงจำพรรษา เวลาเดียวกับ ค้นพบหยกก้อนมหึมา น้ำหนัก 32 ตัน ที่เมืองแวนคูเวอร์ รัฐบริทิชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม พุทธศักราช 2534 ขุดค้นพบโดย นายจอห์น สกัลเลอร์ ซึ่งขุดพบที่เหมืองทอง แต่สันนิษฐานว่าถิ่นกำเนิดหยกก้อนนี้คือยอดเขาคิงส์เม้าท์เท่น ซึ่งเคลื่อนตัวมาที่บ่อทองคำ คำนวณการเดินทางโดยประมาณ 8,000 ถึง 10,0000 ปี ได้ทำกรรมสิทธิ์และดำเนินการส่งลงเรือเพื่อนำมาประเทศไทยในเดือน มกราคม พุทธศักราช 2535โดยเรือชื่อ “Luanhe” ถึงวัดธรรมมงคลวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พุทธศักราช 2535

แบ่งเป็น 3 ส่วนใหญ่ๆ

ส่วนที่ 1 นำมาแกะสลักเป็นองค์พระพุทธรูป

ส่วนที่ 2 นำมาแกะสลักเป็นเจ้าแม่กวนอิม
ส่วนที่ 3 นำมาเกะเป็นฐานพระุพุทธรูป (ฐานพระพุทธมงคลธรรมศรีไทย)

ส่วนที่เหลือจากการแกะสลักองค์ใหญ่ นำมาแกะสลักเป็นองค์เล็กๆ เช่นพระประจำวันเกิด แหวนหยก กำไลหยก พระองค์เล็กอีกมากมาย เพื่อให้สาธุชนที่เดินทางมาวัดธรรมมงคลได้เช่าบูชา ได้สักการะเป็นพระคู่บ้าน หรือแขวนเป็นมงคลติดตัวไปในที่ต่างๆ ดำเนินการแกะสลักโดยช่างผู้เชี่ยวชาญจากประเทศอิตาลี ชื่อนายซีซี่ สมาอิล, นายเปาโล เวี้ยกจิ, นายซารีฟ ทัฟฟิก เนื่องจากหยกเป็นหยกเนื้อดีมีความแข็งมาก

ส่วนแรก

ส่วนเเรก แกะเป็นพระพุทธรูปหยกปางนั่งสมาธิ

ความกว้าง 1 เมตร 66 เซนติเมตร

ความสูง 2 เมตร 20 เซนติเมตร

ใช้เวลาแกะ 12 เดือน

มีชื่อเต็มๆว่า พระพุทธมงคลธรรมศรีไทย (พระพุทธรูปหยก)

          

ส่วนที่สอง

ส่วนที่สอง แกะเป็นเจ้าแม่กวนอิมหยกปางยืนประธานพร

ความสูง 2 เมตร 20 เซนติเมตร

ใช้เวลาแกะ 9-10 เดือน

มีชื่อเต็มๆว่า พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิม (เจ้าแม่กวนอิมหยก)

ประดิษฐาน

ปัจจุบันประดิษฐานใว้ที่ศาลาพระหยก 

วัดธรรมคล สุขุมวิท101 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร
วันที่ประดิษฐาน วันที่ 8 มีนาคม 2536
งบประมาณในการเกะทั้งหมด 29,528,200 บาท

พระพุทธมงคลธรรมศรีไทย

พระอวโลกิเตศวร โพธิสัตว์กวนอิมหยก